ในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย คริสต์สหัสวรรษที่ 3 เป็นช่วงเวลาที่เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2001 และจะจบลงในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 3000 ตามปฏิทินเกรกอเรียน [1] [2] นี่เป็นสหัสวรรษ ที่ 3 ของทั้งคริสต์ศักราช และสากลศักราช [2] [3]
อารยธรรม
อารยธรรมในคริสต์สหัสวรรษที่ 3
แอฟริกา
อเมริกา
เอเชีย
ยุโรป
โอเชียเนีย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เหตุการณ์ที่คาดการณ์ไว้
แ คปซูลกาลเวลา
27 เมษายน 2109 – แคปซูลกาลเวลา ที่อยู่ใต้พื้นอาคาร Old Queens ที่มหาวิทยาลัย Rutgers ในรัฐ New Jersey ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกฝังในวันที่ 27 เมษายน 2009 ถูกกำหนดให้เปิด[12]
ค.ศ.2968 - อนุสาวรีย์ Helium Centennial Time Columnsใน Amarillo รัฐ Texas มีแคปซูลกาลเวลา สี่อันแยกกัน อันสุดท้ายถูกตั้งใจว่าจะเปิด 1000 ปีหลังจาก อนุสาวรีย์ Time Columns ถูกล็อคในปี ค.ศ.1968
เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์
12 สิงหาคม 2045 - สุริยุปราคา เต็มดวงจะเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา จากแคลิฟอร์เนีย ถึงฟลอริด้า บางส่วนของฟลอริด้าจะได้สัมผัสกับสุริยุปราคาเต็มดวงทั้งสิ้นหกนาทีที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ
11 พฤศจิกายน 2069 - ดาวพุธ ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
27 ตุลาคม 2088 - ดาวพุธบังดาวพฤหัสบดี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ค.ศ.1708 แต่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
23 กันยายน 2090 - สุริยุปราคาเต็มดวงในสหราชอาณาจักร สุริยุปราคาเต็มดวงที่มองเห็นได้ในสหราชอาณาจักร ครั้งต่อจากสุริยุปราคาเต็มดวงที่คล้ายกันเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ.1999 แต่ขยับตัวไปทางเหนือเล็กน้อยและเกิดขึ้นใกล้พระอาทิตย์ตก ระยะเวลาสูงสุดที่จะเห็นใน Cornwall จะเป็น 2 นาทีและ 10 วินาที ในวันและเดือนเดียวกับสุริยุปราคาเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ.1699
7 เมษายน 2094 - ดาวพุธบังดาวพฤหัสบดี แต่ใกล้กับดวงอาทิตย์มากและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
11 ธันวาคม 2117 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ [13]
14 กันยายน 2123 - 15:28 UTC ดาวศุกร์ บังดาวพฤหัสบดี [14]
8 ธันวาคม 2125 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์[15]
29 กรกฎาคม 2126 - 16:08 UTC ดาวพุธบังดาวอังคาร [16]
3 ธันวาคม 2133 - 14:14 UTC ดาวพุธบังดาวศุกร์
2 กันยายน 2197 - ดาวศุกร์บังดาว Spica (ครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ.1783)
24 ธันวาคม 2197 - ดวงจันทร์ ของโลก จะบังดาวเนปจูน
2209 และ 2284 - ดาวหางฮัลเลย์ ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
27 พฤษภาคม 2221 - ดาวเคราะห์น้อยใกล้โลก (285,263) 1998 QE2 จะผ่านโลกในระยะห่าง 0.038 AU (5,700,000 กิโลเมตร; 3,500,000 ไมล์) จากโลก[17]
2221 - Triple conjunction ของดาวอังคารและดาวเสาร์
2 ธันวาคม 2223 - 00:32 UTC ดาวอังคารบังดาวพฤหัสบดี
2238/39 - Triple conjunction ของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ (ซึ่ง Triple conjunction ครั้งสุดท้ายคือในปี ค.ศ. 1981)
12 สิงหาคม 2243 - 04:52 UTC ดาวศุกร์บังดาวเสาร์
11 มิถุนายน 2247 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
4 มีนาคม 2251 - 10:52 UTC ดาวศุกร์จะบังดาวยูเรนัส
2252 - ดาวเคราะห์น้อย Orcus จะโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 1 รอบ นับตั้งแต่การค้นพบในปี ค.ศ. 2004 ตามการวัดวงโคจร ในปัจจุบันได้คาบการโคจรคือ 248 ปี
1 สิงหาคม 2253 - ดาวพุธบังดาว Regulus (ครั้งล่าสุดของเรกูลัสเกิดเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 364 ปีก่อนค.ศ.)
9 มิถุนายน 2255 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
2256-2258 - Eris จะใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การค้นพบ
6 ตุลาคม 2271 - Close conjunction ระหว่างดาวศุกร์และดาว Regulus อาจจะมีการบัง Regulus โดยดาวศุกร์
2279 - Triple conjunction ของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์
2281/82 - Grand Trine ของดาวยูเรนัส,ดาวเนปจูน และดาวพลูโต ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1769 และ 1770
วันอาทิตย์, 28 สิงหาคม 2287 - ดาวอังคารและโลกอยู่ใกล้กันมากที่สุดตั้งแต่วันพุธที่ 27 สิงหาคม 2003
2288 - ดาวเคราะห์น้อย Quaoar จะได้โคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบตั้งแต่การค้นพบในปี 2002 ตามการวัดการโคจรในปัจจุบันที่มีคาบการโคจรเป็น 286 ปี
11 กันยายน 2307 - 22:50 UTC ดาวศุกร์บังดาวยูเรนัส
2313 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
2319 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
4 มิถุนายน 2327 - 00:54 UTC ดาวศุกร์บังดาวอังคาร
8 ตุลาคม 2335 - 14:51 UTC ดาวศุกร์บังดาวพฤหัสบดี
7 เมษายน 2351 - 17:22 UTC ดาวพุธบังดาวยูเรนัส
13 ธันวาคม 2360 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
2365 - ดาวหางฮัลเลย์ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด
10 ธันวาคม 2368 - ดาวศุกร์ ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
2388 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
11 พฤษภาคม 2391 - ดาวพุธผ่านหน้าดวงอาทิตย์เป็นบางส่วน
17 พฤศจิกายน 2400 - ดาวศุกร์บังดาว Antares (ครั้งสุดท้ายเกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 525 ปีก่อนค.ศ.)
30 ธันวาคม 2419 - 01:38 UTC ดาวศุกร์จะบังดาวยูเรนัส
2426 - วงโคจรของดาวพลูโตที่สองตั้งแต่การค้นพบ
2456 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
29 สิงหาคม 2478 - 23:11 UTC ดาวอังคารบังดาวพฤหัสบดี
12 มิถุนายน 2490 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
6 พฤษภาคม 2492 - Jean Meeus นักดาราศาสตร์ชาวเบลเยี่ยม ยืนยันว่าวงโคจรของดาวเคราะห์ทั้งแปดและดาวพลูโตจะอยู่ภายในส่วนโค้ง 90 ° ของระบบสุริยะ ครั้งสุดท้ายนี้เชื่อว่าเกิดขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ.949 [18]
10 มิถุนายน 2498 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
5 พฤษภาคม 2600 - สุริยุปราคาเต็มดวงครั้งแรก[19] ที่มองเห็นได้จากลอนดอน นับตั้งแต่ปี 2151[20] ความกว้างของเส้นทางของมันถูกคาดการณ์ว่าจะกว้างเป็นพิเศษที่ความกว้างสูงสุด
7 เมษายน 2515 - 10:37 UTC ดาวอังคารบังดาวเนปจูน[21]
25 มกราคม 2518 - 22:41 UTC ดาวศุกร์บังดาวเสาร์[21]
2562 - ดาวเคราะห์แคระ Eris จะได้โคจรรอบดวงอาทิตย์ครบหนึ่งรอบ นับตั้งแต่การค้นพบในปี 2005
2599 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
16 ธันวาคม 2603 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
13 พฤษภาคม 2608 - ดาวพุธเฉียดผ่านหน้าดวงอาทิตย์
13 ธันวาคม 2611 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์บางส่วน
2626/27 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
2629 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
16 กุมภาพันธ์ 2649 - 11:17 UTC ดาวศุกร์บังดาวเนปจูน
3 กันยายน 2650 - ระยะห่างระหว่างดาวอังคารและโลกจะมาถึงจุดที่น้อยที่สุดครั้งใหม่คือ 55,651,582,118 กม. มันเป็นการใกล้กันมากกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย ก่อนหน้านี้คือวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ.2287[22] การใกล้กันมากกว่าเดิมจะเกิดขึ้นอีกในวันที่ 8 กันยายน ค.ศ.2729
2655/56 - Triple conjunction ของดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์
2663 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
2699/2700 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี, ดาวอังคารกับดาวเนปจูน และดาวพฤหัสบดีกับดาวเนปจูน
24 ตุลาคม 2714 - ดาวพฤหัสบดีผ่านหน้าดวงอาทิตย์ที่เห็นได้จากดาวยูเรนัส ครั้งแรกในรอบ 800 ปี นับตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ.1914
8 กันยายน 2729 - ระยะห่างระหว่างดาวอังคารและโลกจะมาถึงจุดที่น้อยที่สุดครั้งใหม่คือ 55,651,033,122 กม. มันจะเป็นใกล้กันมากกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย ก่อนหน้านี้คือวันที่ 8 กันยายน 2650 [23]
15 มิถุนายน 2733 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
13 มิถุนายน 2741 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
2742 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
2744 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
2761 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
3 ธันวาคม 2781 - 06:45 UTC ดาวศุกร์จะบังดาวเนปจูน
2791 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
2794/95 - Triple conjunction ของดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์
ศตวรรษที่ 29 - เศษดาวหาง Ikeya-Seki คาดว่าจะกลับไปภายในระบบสุริยะชั้นใน มันเห็นจากโลกครั้งสุดท้ายใน ค.ศ.1965-1966 และแตกเป็นสามส่วนระหว่างที่มันเข้าใกล้ดวงอาทิตย์
25 มีนาคม 2816 - 15:47 UTC ดาวพุธบังดาวพฤหัสบดี
6 มีนาคม 2817 - 09:36 UTC ดาวศุกร์บังดาวเสาร์
11 เมษายน 2818 - 20:41 UTC ดาวพุธบังดาวอังคาร
6 กุมภาพันธ์ 2825 - 10:50 UTC ดาวอังคารบังดาวยูเรนัส
2829/30 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
15 ธันวาคม 2830 - 09:40 UTC ดาวศุกร์บังดาวอังคาร
2842/43 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
16 ธันวาคม 2846 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
14 ธันวาคม 2854 - ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์บางส่วน
20 กรกฎาคม 2855 - 05:15 UTC ดาวพุธบังดาวพฤหัสบดี
2866 - Triple conjunction ของดาวอังคารกับดาวเสาร์
16 มีนาคม 2880 - ดาวเคราะห์น้อย (29075) 1950 DA ถูกคาดการณ์ว่าจะพุ่งชนโลกดาวเคราะห์น้อยนี้เป็นวัตถุใกล้โลกที่มีความน่าจะเป็นในการพุ่งชนโลกสูงสุดเท่าที่รู้จัก
เหตุการณ์ทางชีววิทยา
ค.ศ.2099 - ตามการศึกษาหนึ่ง 83% ของป่าอเมซอน อาจจะถูกทำลาย[24]
ภายในปี 2100(พ.ศ.2643), 12% (ประมาณ 1,250ของสายพันธุ์นก ) ที่มีอยู่เมื่อตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 จะสูญพันธุ์ ไปหรือเสี่ยงต่อการสูญพันธ์.[25]
ภายใน ค.ศ.2100 เพนกวินจักรพรรดิ จะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างมาก เนื่องจากสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง ตามการศึกษาของ Woods Hole Oceanographic Institution เมื่อเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2009 การศึกษาใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ คาดการณ์ว่าการละลายของน้ำแข็งเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นจะมีผลกระทบต่อเพนกวินจักรพรรดิในแอนตาร์กติกา อย่างไร และพวกเขาพยากรณ์การลดลง 87% ของฝูงเพนกวินจักรพรรดิ ภายในสิ้นคริสต์ศตวรรษนี้[26]
การคาดการณ์ทางเทคโนโลยี
ลิฟต์อวกาศ เสร็จสมบูรณ์ภายใน ค.ศ.2050[27]
มีการเดินทางทางอากาศที่มีความเร็วเหนือเสียงทางด้านการค้าภายใน ค.ศ.2050[28]
พลังงานของเดนมาร์กจะถูกจัดหามาโดยพลังงานทดแทนอย่างเดียวใน ค.ศ.2050[29]
การรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Oldbury ที่อยู่ใกล้กับ Thornbury, South Gloucestershire, ประเทศอังกฤษ ซึ่งมีการรื้อถอนนิวเคลียร์ ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2012 ถูกกำหนดให้เสร็จระหว่าง ค.ศ.2092 และ 2101.[30]
ตามสารคดีช่อง Discovery Channel เรื่อง Extreme Engineering Shimizu Mega-City Pyramid ของญี่ปุ่นจะเสร็จภายในปี ค.ศ.2110.[31] [32]
การศึกษาปัญญาประดิษฐ์เป็นเวลา 100 ปี (AI100) ที่ถูกเริ่มต้นโดย มหาวิทยาลัย Stanford จะได้ข้อสรุปใน ค.ศ.2115.[33] [34] [35]
ค.ศ.2162 (พ.ศ.2705 ) หรือหลังจากนั้น: ดาวเทียม Envisat, ที่ถูกประกาศว่า "พัง" ในปี 2555(ค.ศ.2012) จะถูกทำลายวงโคจร และเผาไหม้ ในชั้นบรรยากาศ [36]
ภายใน ค.ศ.2200 โลกจะเข้าสู่อารยธรรมประเภทที่ 1 ตามสเกลของ Kardashev ตามการคาดการณ์ของ Nikolai Kardashev ว่ามีอัตราการเพิ่มของการใช้พลังงาน 1% ต่อปี[37]
เหตุการณ์ทางสังคม
ตามการคาดการณ์เมื่อเดือน ธันวาคม 2552 สำนักสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่าประชากรโลกจะถึง 8.4 พันล้านคนภายในปี ค.ศ.2030[38]
นักประชากรศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Emmanuel Todd คาดการณ์ว่าอัตราการรู้หนังสือ ของประชากรโลกใกล้จะถึง 100% ภายในปี ค.ศ.2030[39]
นักวิทยาศาสตร์ด้านผู้สูงอายุ Aubrey De Grey คาดการณ์ว่ามีโอกาส 50/50 ที่จะรักษาความแก่ได้ ภายในประมาณปี ค.ศ.2036[40]
ประชากรโลก จะถึง 9.3 พันล้านคนภายในปี ค.ศ.2050 ตามการคาดการณ์ของฝ่ายประชากรของสหประชาชาติ[41]
นักประชากรศาสตร์ชาวฝรั่งเศส Emmanuel Todd คาดการณ์ว่าอัตราการเกิดของประชากรโลกจะเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2050.[42]
สหราชอาณาจักร จะมีประชากรมากสุดในยุโรปภายในปี ค.ศ.2050 และเป็นประเทศที่รับผู้อพยพมากที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ตามการคาดการณ์ของ UN[43]
ทศวรรษ 2050s - จีน , สหรัฐอเมริกา , อินเดีย , บราซิล และ เม็กซิโก จะมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามการศึกษาของ Goldman Sachs[44]
ค.ศ.2160 – นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าเด็กที่เกิดในปี ค.ศ.2010 อาจจะมีชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.2160.[45]
ตามการคาดการณ์ของสำนักประชากรของสหประชาชาติ อายุขัยเฉลี่ยในปี ค.ศ.2200 จะอยู่ที่ประมาณ 100 ปี สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว และประชากรโลกจะอยู่ที่ 8.5 พันล้าน อย่างไรก็ตาม UN เตือนว่าการคาดการณ์นี้อาจใช้การไม่ได้เพราะการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและการค้นพบการยืดอายุขัยในอนาคต รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงอัตราการเกิดในอนาคต[46]
ศตวรรษที่ 22 - ในหนังสือ 100 ปีข้างหน้า ของนักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน George Friedman คาดการณ์ว่าเมื่อศตวรรษนี้เริ่มขึ้น การเผชิญหน้ากันระหว่างประเทศมหาอำนาจ เม็กซิโก กับสหรัฐอเมริกา จะเกิดขึ้น เม็กซิโกจะเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและการทหารที่สามารถท้าทายกับสหรัฐอเมริกาได้ ในขณะที่ประชากรเม็กซิกันในพื้นที่ทางใต้ของสหรัฐอเมริกาจะทำให้มีการขยายอาณาเขตของเม็กซิโก(ในทางปฏิบัติ) จากการที่ความคิดของการแบ่งแยกดินแดนมีมากขึ้น ทั้งสองประเทศจะแข่งขันกันเพื่อที่จะมีอิทธิพลเหนือทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งจะเป็นจุดศูนย์ถ่วงของโลกตลอดสองสามศตวรรษถัดไป[47]
ค.ศ.2250 - ตามทฤษฎีของนักประวัติศาสตร์ Max Ostrovsky[48] รัฐโลก (World State) ปรากฏขึ้นหลังจากเกิดสงครามโลก อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
บุคคลที่มีนัยสำคัญ
สิ่งประดิษฐ์และการค้นพบ
ศตวรรษและทศวรรษ
หมายเหตุ
↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 รัฐที่ได้รับการยอมรับจากบางประเทศเท่านั้น
↑ 2000 ถูกพิจารณาว่าเป็นปีสุดท้ายของคริสต์สหัสวรรษที่ 2 แต่มีการโต้แย้งในบางครั้ง
↑ 9 ปี ใน 10 ปีของคริสต์ทศวรรษนี้ อยู่ในคริสต์สหัสวรรษนี้
อ้างอิง
↑ United States Naval Observatory, "The 21st Century and the 3rd Millennium:When Did They Begin?" เก็บถาวร 2019-10-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
↑ 2.0 2.1 "When and where did the new Millennium officially start, and why? เก็บถาวร 2012-06-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน "
↑ Associated Press (2001-01-01). "Y2K It Wasn't, but It Was a Party" . latimes.com . Los Angeles Times . สืบค้นเมื่อ 2015-10-15 .
↑ The Arab Spring—One Year Later: The CenSEI Report analyzes how 2011's clamor for democratic reform met 2012's need to sustain its momentum. The CenSEI Report , 13 February 2012
↑ "How much did the September 11 terrorist attack cost America?" . 2004 . Institute for the Analysis of Global Security. สืบค้นเมื่อ 2014-04-30 .
↑ "What we know about the Boston bombing and its aftermath" . CNN. April 19, 2013. สืบค้นเมื่อ April 19, 2013 .
↑ Kotz, Deborah (April 24, 2013). "Injury toll from Marathon bombs reduced to 264" . The Boston Globe . สืบค้นเมื่อ April 29, 2013 . Boston public health officials said Tuesday that they have revised downward their estimate of the number of people injured in the Marathon attacks, to 264.
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF) . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2015-09-24. สืบค้นเมื่อ 2016-06-11 .
↑ http://www.cbc.ca/news/politics/parliament-hill-attacked-soldier-shot-at-national-war-memorial-in-ottawa-1.2808710
↑ Bennetto, Jason; Ian Herbert (13 August 2005). "London bombings: the truth emerges" . The Independent . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2009-03-06. สืบค้นเมื่อ 3 December 2006 .
↑ "Fires rage across Tasmania" . abc.net.au . Australian Broadcasting Corporation. 2013-01-04. สืบค้นเมื่อ 2015-10-25 .
↑ Diduch, Mary (April 27, 2009). "U. celebrates Old Queens bicentennial" . The Daily Targum . Rutgers University: College Media Network. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2010-01-01. สืบค้นเมื่อ June 16, 2009 . At the ceremony, a time capsule was revealed containing several items from today to leave for the University in 2109, at the building’s tricentennial commemoration.
↑ HM Nautical Almanac Office: 2117 Transit of Venus เก็บถาวร 2017-04-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . Astro.ukho.gov.uk (2011-05-03). Retrieved on 2014-01-19.
↑ Articles – Occultation – OPT Telescopes . Optcorp.com. Retrieved on 2014-01-19.
↑ HM Nautical Almanac Office: 2125 Transit of Venus เก็บถาวร 2011-08-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . Astro.ukho.gov.uk (2011-05-03). Retrieved on 2014-01-19.
↑ "Occultation - Mutual planetary transits and occultations - Encyclopedia II" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-13. สืบค้นเมื่อ 2016-05-23 .{{cite web }}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์ )
↑ Dr. Lance A. M. Benner (May 28, 2013). "(285263) 1998 QE2 Goldstone Radar Observations Planning" . NASA/JPL Asteroid Radar Research. สืบค้นเมื่อ 2013-05-30 .
↑ Griffith Observatory
↑ "Solar eclipse of May 5, 2600" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-07-15. สืบค้นเมื่อ 2016-05-23 .
↑ "Solar eclipse of June 14, 2151" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-07-16. สืบค้นเมื่อ 2016-05-23 .
↑ 21.0 21.1 Mutual Planetary Transits; Fifteen millennium catalog; Period 2 001 AD - 3 000 AD
↑ [meteorite-list] Mars Makes Closest Approach In Nearly 60,000 Years , by Ron Baalke, on Friday August 22, 2003 at 09:04:54 -0700
↑ [meteorite-list] Mars Makes Closest Approach In Nearly 60,000 Years , par Ron Baalke, on Friday August 22, 2003 at 09:04:54 -0700
↑ "No rainforest, no monsoon: get ready for a warmer world" . NewScientist.
↑ Pimm, Stuart; และคณะ (2006). "Human impacts on the rates of recent, present, and future bird extinctions" . Proceedings of the National Academy of Sciences . 103 (29): 10941–10946. doi :10.1073/pnas.0604181103 . PMC 1544153 . PMID 16829570 .
↑ Dunham, Will. "Melting Sea Ice May Doom Emperor Penguins, Study Finds" . The Washington Post . สืบค้นเมื่อ January 26, 2008 .
↑ Rebecca Boyle (23 February 2012). "Japanese Construction Company Plans Space Elevator By 2050" . Australian Popular Science . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2019-09-18. สืบค้นเมื่อ 29 February 2012 .
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-06-23. สืบค้นเมื่อ 2016-06-11 .
↑ "Our future energy" (PDF) . The Danish government . The Danish Ministry of Climate and Energy. November 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2011-06-23. สืบค้นเมื่อ 2012-04-26 .
↑ Enoch, Nick (February 29, 2012). "World's oldest nuclear power station closes... but it will take 90 more years and £954m to clear it completely" . Daily Mail . London. สืบค้นเมื่อ 29 February 2012 .
↑ New Mega-City Challenge – Concept เก็บถาวร 2018-09-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . Geekwidget (2010-03-29). Retrieved on 2014-01-19.
↑ city in pyramid ที่ยูทูบ
↑ "Stanford to host 100-year study on artificial intelligence" . Stanford University . 16 December 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-06-12. สืบค้นเมื่อ 19 December 2014 .
↑ "Study to Examine Effects of Artificial Intelligence" . The New York Times . 15 December 2014. สืบค้นเมื่อ 19 December 2014 .
↑ "One-Hundred Year Study of Artificial Intelligence: Reflections and Framing" . Eric Horvitz . 2014. สืบค้นเมื่อ 19 December 2014 .
↑ Wall, Mike (2012-05-11). "Dead Satellite Envisat May Be Space Junk for 150 Years" . Huffington Post . Huffington Post. สืบค้นเมื่อ 2012-05-13 .
↑ Kaku, Michio (April 26, 2004). "How Advanced Could They Be?" . Astrobiology Magazine . สืบค้นเมื่อ January 7, 2010 .
↑ "Total Midyear Population for the World: 1950-2050" . U.S. Census Bureau . 2008-12-15. สืบค้นเมื่อ 2009-03-30 .
↑ Todd, Emmanuel (2003). After the Empire: The Breakdown of the American Order . New York: Columbia University Press. ISBN 0-231-13102-X .
↑ Health and Science Correspondent Kate Kelland. "Who wants to live forever? Scientist sees aging cured" . Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2015-11-27. สืบค้นเมื่อ 2013-01-10 .
↑ "World population to reach 9.1 billion in 2050, UN projects" . UN News Center . 24 February 2005.
↑ Todd, Emmanuel (2003). After the Empire: The Breakdown of the American Order . New York: Columbia University Press. ISBN 0-231-13102-X .
↑ "Britain 'biggest in EU by 2050' " . BBC News . 12 March 2009.
↑ Wilson, Dominic; Stupnytska, Anna (March 28, 2007). "The N-11: More Than an Acronym" (PDF) . Global Economics Paper. 153 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF) เมื่อ 2011-08-10. สืบค้นเมื่อ 2016-06-11 .
↑ Laurance, Jeremy (2010-05-12). "Has the elixir of youth come of age?" . The Independent . London: The Independent. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-05-15. สืบค้นเมื่อ 2010-05-15 .
↑ World population in 2300 . (PDF) . Retrieved on 2014-01-19.
↑ Friedman, George (2009) The Next 100 Years: A Forecast for the 21st Century , Anchor, ISBN 0767923057 .
↑ Y = Arctg X: The Hyperbola of the World Order , (Lanham: University Press of America, 2007).
↑ "Chronology – Quarter 1 1949" .
↑ Mackenzie, Dana (2006-12-22). "The Poincaré Conjecture--Proved" . Science . American Association for the Advancement of Science. 314 (5807): 1848–1849. doi :10.1126/science.314.5807.1848 . ISSN 0036-8075 . PMID 17185565 .
↑ "Higgs boson-like particle discovery claimed at LHC" . BBC News . สืบค้นเมื่อ 6 October 2014 .
↑ Castelvecchi, Davide; Witze, Witze (February 11, 2016). "Einstein's gravitational waves found at last" . Nature News . doi :10.1038/nature.2016.19361 . สืบค้นเมื่อ 2016-02-11 .
↑ "India's Mars satellite successfully enters orbit, bringing country into space elite" . The Guardian . 24 September 2014. สืบค้นเมื่อ 24 September 2014 . India has become the first nation to send a satellite into orbit around Mars on its first attempt, and the first Asian nation to do so.